คนหายต้องหา นักสืบเอกชนมีแนวทางการค้นหาอย่างไร

ในประเทศไทยปัญหาคนหายที่ญาติหรือผู้เกี่ยวข้องต้องจ้างนักสืบเอกชนเพื่อให้ช่วยตามหามีอยู่หลายคดีด้วยกัน และอีกหนึ่งปัญหาคนหายที่ทำให้นักสืบที่รับทำคดีจะต้องมีไหวพริบและความรอบคอบสูง คือ คนหายในเมืองไทยมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน เช่น หนีออกจากบ้าน, หนีคดี, มีอาการเจ็บป่วยทางสมอง, หนีตามชู้สาว หรือแม้แต่ขาดการติดต่อไปเฉย ๆ เป็นต้น ดังนั้นคนหายจึงไม่ใช่เรื่องของการโดนลักพาตัวเพียงอย่างเดียว นักสืบจึงต้องมีแนวทางการค้นหา เพื่อนำบุคคลที่รักกลับมาสู่ครอบครัว

แนวทางค้นหาคนหาย ที่นักสืบเอกชนใช้ เพื่อนำพากลับมาสู่ครอบครัว

หลายครอบครัวก่อนที่จะตัดสินใจจ้างนักสืบตามหาคน มักจะเริ่มต้นที่การแจ้งความก่อน และยังมีอีกหลายครอบครัวที่เมื่อไปแจ้งความแล้วจะต้องพบกับคำตอบที่ว่า “ต้องรอให้คนหายครบ 24 ชั่วโมง” ก่อน ซึ่งหลายครั้งที่ความร้อนใจของครอบครัวไม่สามารถรอได้ นักสืบจึงเข้ามามีบทบาท ที่จะช่วยให้เวลาตามหาคนหายมีโอกาสพบตัวได้เร็วขึ้น ดังแนวทางการสืบต่อไปนี้

1. เริ่มต้นรวบรวมข้อมูล

นักสืบจะเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคนหาย เช่น ชื่อ, ที่อยู่, รูปถ่ายล่าสุด, อายุ, สถานที่สุดท้ายที่พบเจอ, ช่วงเวลาสุดท้ายที่พบเห็น และข้อมูลอื่น ๆ เพื่อนำมาประกอบเป็นภาพใหญ่ให้พอประเมินสถานการณ์ได้

2. ลงพื้นที่ไปยังที่อยู่ล่าสุด

หากบริษัทนักสืบพบว่า บุคคลที่หายไปนั้น ได้หายไปนานกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว บริษัทจะส่งนักสืบลงพื้นที่ไปยังที่อยู่ล่าสุด เพื่อสอบถามบุคคลโดยรอบพื้นที่ ถึงการพบเห็นบุคคลที่หายไปครั้งสุดท้าย

3. แกะรอยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากการพูดคุย สอบถาม และลงพื้นที่แล้ว นักสืบยังใช้วิธีการแกะรอยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมด้วย เช่น ติดตามจากกล้องวงจรปิด หรือติดตามจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อตามหาสัญญาณล่าสุด

4. แกะรอยจาก Social Media

เมื่อนักสืบเอกชนได้พูดคุยกับญาติ และคนรู้จัก จะขอข้อมูลญาติเพื่อดูการใช้ Social Media ล่าสุดของผู้สูญหาย ว่าได้มีการแชท หรือพูดคุยกับใครเป็นครั้งสุดท้าย หรือมีการโพสต์ข้อความที่ทิ้งร่องรอยใดเอาไว้บ้าง และถ้าหากได้เบาะแสและมีความจำเป็นจริง ๆ นักสืบจะเข้าประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการติดตามตัว

5. สืบค้นด้วยความระวัง

ในกรณีที่นักสืบทราบว่าบุคคลที่หายไปมีปัญหากับคนในครอบครัว กับเพื่อนในละแวกบ้าน หรือมีปัญหาการหนีจากคดีที่มีความร้ายแรง การค้นหาความจริง และการติดตามตัว นักสืบจะปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ผู้ที่สูญหายรู้ตัวว่ามีคนกำลังแกะรอยอยู่

นักสืบเอกชนจะเป็นบุคคลที่มีความชำนาญในการสืบค้นความจริง กรณีคนหายก็เช่นเดียวกัน หากนักสืบทราบว่าคนหายเกี่ยวข้องกับคดีที่ร้ายแรง การปฏิบัติหน้าที่ก็จะมีความละเอียด รอบคอบ และเงียบเชียบ ซึ่งแตกต่างจากการคนหายกรณีทั่วไปที่บางครั้งอาจจะต้องใช้สื่อโซเชียลประกาศตามหา ผ่านเพื่อนผู้ใกล้ชิดกับผู้สูญหาย ยิ่งส่งต่อการตามหามากเท่าไหร่ โอกาสจะพบตัวก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นนักสืบจึงเป็นบุคคลที่สามารถพลิกสถานการณ์เพื่อผลลัพธ์ในการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม